40 ประโยชน์ของเห็ดหลินจือแดง และสรรพคุณเห็ดหลินจือแดง
ประโยชน์ของเห็ดหลินจือแดง เห็ดหลินจือแดง จัดเป็นยาจีนที่ได้มีการใช้กันมายาวนานกว่า 2,000 ปีแล้ว (Chinese traditional medicine) โดยมีการใช้กันนับตั้งแต่สมัยจักรพรรดิฉินซีฮ่องเต้เป็นต้นมา เห็ดหลินจือที่ขึ้นอยู่ตามธรรมชาติ จะมีมากกว่า 100 สายพันธุ์เลยทีเดียว โดยสายพันธุ์ที่นิยม และมีสรรพคุณทางยาที่ดีที่สุด
นั่นก็คือสายพันธุ์สีแดง หรือเห็ดหลินจือแดง หรือกาโนเดอร์มา ลูซิดัม (Ganoderma lucidum) โดยที่ในเห็ดหลินจือแดงนั้น จะมีสารพอลิแซ็กคาไรด์ (Polysaccharide) อันซึ่งจะช่วยยับยั้งและรักษาอาการต่าง ๆ (ประโยชน์จะอยู่ด้านล่าง) โดยแต่ละชนิด จะมีปริมาณสารพอลิแซ็กคาไรด์
ในปริมาณ มาก – น้อย ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งก็แน่นอนว่าคงหนีไม่พ้นสายพันธุ์สีแดงจะเป็นสายพันธ์ที่พบสารพอลิแซ็กคาไรด์ได้มากที่สุด ตามที่กล่าวข้างต้นนั่นเอง — ประโยชน์ของเห็ดหลินจือแดง
เห็ดหลินจือ เป็นเห็ดสมุนไพรจีนที่มีชื่อสามัญเรียกว่า Lingzhi mushroom และอีกชื่อของเห็ดหลินจือคือ Reishi mushroom
เห็ดหลินจือ นั้นมีชื่อเรียกในทางวิทยาศาสตร์ว่า Ganoderma lucidum (Curtis) P. Karst เป็นยาจีน สำหรับเห็ดหลินจือนี้มีความสุดยอดที่ให้พลังมหัศจรรย์ และะยังได้จัดอยู่ในวงศ์ของ GANODERMATACEAE
สมุนไพรเห็ดหลินจือ สมุนไพรจากจีนที่มีชื่อไทยเรียกอีกมากมายว่า เห็ดหมื่นปี, เห็ดอมตะ เป็นต้น
เห็ดหลินจือแดงชนิดนี้ จัดได้ว่าเป็นของที่หาได้ยาก ที่มีคุณค่าสูงในทางสมุนไพรจีน โดยจะมีการยกย่องว่าเป็นยอดเห็ด เป็นเห็ดที่ดีที่สุดในหมู่บรรดาสมุนไพรจีนเลย เพราะเนื่ีองจากได้มีการบันทึกในคัมภีร์โบราณ “เสินหนงเปินเฉ่า” (เป็นตำราเก่าแก่ที่คนจีนนับถือกันมากที่สุด) ซึ่งได้มีการกล่าวไว้ว่า
เห็ดหลินจือนี้เป็นเทพเจ้าแห่งชีวิต ที่มีพลังมหัศจรรย์ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบว่า ในเห็ดชนิดนี้มีสารต่าง ๆ อันที่จะเป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า 250 ชนิด !
สามารถใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย และใช้เป็นยาอายุวัฒนะในการยืดอายุได้ และนอกจากนี้ยังช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง รักษาโรคต่าง ๆ ได้มากมายหลายโรค และยังปลอดภัยไม่มีสารพิษใด ๆ ต่อร่างกายอีกด้วย
เห็ดหลินจือในปัจจุบันนี้ จะมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเห็ดหลินจือออกมาจำหน่ายค่อนข้างมาก แต่สำหรับการเลือกซื้อ คุณควรศึกษาตั้งแต่ขั้นตอนการเพาะปลูก เพราะในเห็ดหลินจือที่มีคุณภาพที่ดีนั้น จะต้องได้รับการเพาะเลี้ยงในสภาวะที่เหมาะสม ทั้งความชื้น แสงสว่าง
รวมไปจนถึงสารอาหารที่ได้รับด้วย และสิ่งที่ต้องดูอีกเรื่องนึงก็คือ ขั้นตอนการแปรรูป ซึ่งตรงนี้ก็สำคัญมาก เพราะเป็นกระบวนการที่จะต้องสารสกัดพอลิแซ็กคาไรด์ จากเห็ดออกมาให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ยังรวมไปจนถึงบรรจุภัณฑ์ ที่จะต้องให้ความสนใจด้วย โดยจะต้องเป็นบรรจุภัณฑ์
ที่สามารถกันความชื้นได้เป็นอย่างดี เพราะเนื่องจากว่า เห็ดชนิดนี้จะไวต่อความชื้นเป็นพิเศษ และความชื้นจะทำให้เห็ดหลินจือขึ้นราได้นั่นเอง
40 ประโยชน์ของเห็ดหลินจือแดง
- เห็ดหลินจือแดงช่วยรักษาโรคประสาท
- ช่วยทำให้ความจำดีขึ้น
- ช่วยชะลอแก่ ชะลอวัย
- ช่วยบำรุงและรักษาสายตา
- ช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สีหน้าแจ่มใส
- สรรพคุณของเห็ดหลินจือเห็ดหลินจือสรรพคุณใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย
- สรรพคุณเห็ดหลินจือใช้เป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยทำให้อายุยืนยาว
- ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง
- ช่วยทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงขึ้น ให้พลังชีวิตมากขึ้น
- ช่วยส่งเสริมระบบการไหลเวียนของเลือดให้ดียิ่งขึ้น
- ช่วยผ่อนคลายระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ทำให้นอนหลับได้สนิท
- ช่วยทำให้ประสาทสัมผัสต่าง ๆ ดีขึ้น
- สรรพคุณเป็น สมุนไพรรักษาโรคมะเร็ง ช่วยต่อต้าน ส่งเสริมภูมิคุ้มกัน กระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวสร้างสารต้านมะเร็ง
- ช่วยแก้พิษจากรังสี คีโม เช่น เม็ดเลือดขาวต่ำจากคีโม ท้องเสียอักเสบจากการฉายรังสี อาการปวดจากพิษบาดแผล
- ช่วยลดความดันโลหิตและรักษาโรคความดันโลหิตสูง
- ช่วยปรับความดันโลหิตทั้งสูงและต่ำให้สมดุล
- ช่วยรักษาโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ
- ช่วยป้องกันเส้นเลือดในสมองและหัวใจอุดตัน ป้องกันอัมพฤกษ์ อัมพาต
- ช่วยลดไขมันในเลือด
- ช่วยรักษาและบรรเทาอาการของโรคหมอนรองกระดูกแตกกดทับเส้นประสาทให้ทุเลาลง
- ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยควบคุมอาการเบาหวาน
- ช่วยรักษาโรคภูมิแพ้ หอบหืด
- สรรพคุณของเห็ดหลินจือช่วยบำรุงตับและรักษาโรคตับ ตับแข็ง ตับอักเสบ
- เห็ดหลินจือเป็น สมุนไพรรักษาโรคไต เรื้อรังบางชนิด โดยช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพการทำงานของไตให้ดีขึ้น
- ประโยชน์ของเห็ดหลินจือช่วยรักษาโรคลมบ้าหมู
- ช่วยแก้อาการอาหารเป็นพิษ
- ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้
- ประโยชน์เห็ดหลินจือ ช่วยขับปัสสาวะ
- ช่วยรักษาและบรรเทาอาการของโรคริดสีดวงทวาร
- ช่วยแก้อาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดตามข้อ
- ประโยชน์ของเห็ดหลินจือ ช่วยรักษาโรคเกาต์
- ช่วยสลายใยแผลเป็นหรือพังผืดหดยืด ทำให้ใยแผลเป็นอ่อนนิ่มและหดตัวเล็กลง
- ช่วยยับยั้งเชื้อไวรัสอย่างเช่น ไวรัสเอดส์ อีสุกอีใส งูสวัด
- ช่วยรักษาโรคลูปัส อีริทีมาโตซัสทั่วร่าง (SLE) หรือโรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานผิดปกติ
- ช่วยแก้อาการป่วยบนที่สูง เช่น อาการหูอื้อ
- ช่วยรักษาโรคที่มีสาเหตุมาจากการขาดออกซิเจน เช่น ถุงลมโป่งพอง หัวใจล้มเหลว เส้นเลือดหัวใจตีบ
- ช่วยแก้อาการปวดประจำเดือน
- ช่วยแก้ปัญหาภาวะมีบุตรยาก
- ช่วยป้องกันการเสื่อมสรรถภาพทางเพศ
- เห็ดหลินจือจัดเป็นสเตียรอยด์ธรรมชาติ ซึ่งไม่มีสารพิษหรือผลข้างเคียงเหมือนกับสเตียรอยด์สังเคราะห์
ข้อควรรู้และคำแนะนำ
- เห็ดหลินจือ จะเหมาะกับใคร ? นั้น อันเนื่องจากเห็ดชนิดนี้ จะมีสรรพคุณที่จะช่วยป้องกัน และช่วยในการบำบัดรักษาโรคซะเป็นส่วนใหญ่ มันจึงเหมาะกับโรคของผู้สูงอายุ และวัยก่อนสูงอายุที่เป็นโรคดังกล่าวข้างต้นนั่นเอง
- รูปแบบของการรับประทานเห็ดหลินจือ สามารถแบ่งได้หลายรูปแบบ ” อย่างแรก ” เลยก็คือ ยาต้มแบบโบราณ ด้วยการนำเห็ดหลินจือที่แห้งนำมาต้ม และเคี่ยว ซึ่งเป็นวิธีที่ค่อนข้าจะงยุ่งยากและไม่สะดวกเลย ” แบบที่สอง ” คือเนื้อเห็ดหลินจือบดเป็นผงบรรจุในแคปซูล ซึ่งหากไม่ผ่านการฆ่าเชื้อก็อาจทำให้มีเชื้อราปนเปื้อนได้ โดยรูปแบบนี้จะมีความเข้มน้อย และดูดซึมได้ยาก ” แบบที่สาม ” ซึ่งเป็นแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ เห็ดหลินจือสกัดหรือสารสกัดจากเห็ดหลินจือแคปซูล ซึ่งจะได้สารสกัดที่เข้มข้นมากที่สุด มีสรรพคุณที่ดีกว่า สามารถดูดซึมและออกฤทธิ์ได้ดีและไวกว่า ที่สำคัญก็คือ มีมาตรฐานการผลิตที่สะอาดและปลอดภัย เช่น เห็ดหลินจือโครงการหลวงเป็นต้น
- เห็ดหลินจือกินอย่างไร ? สำหรับเวลาที่เหมาะสมในการกินเห็ดหลินจือนั้น ก็คือก่อนการรับประทานตอนเช้า ในขณะที่ท้องว่าง แล้วดื่มน้ำตามมาก ๆ ถ้าหากได้ทานร่วมกับวิตามินซีด้วยแล้ว ก็จะเป็นการดีมากๆ เพราะจะเป็นการช่วยเสริมสรรพคุณ และสำหรับผู้ที่ต้องกินยากดภูมิต้านทาน หรือผู้ที่เป็นโรค SLE หรือผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะ ควรงดรับประทาน
- ผลข้างเคียงของเห็ดหลินจือ สำหรับผู้ที่พึ่งจะเริ่มรับประทานเห็ดหลินจือใหม่ ๆ ก็อาจจะรู้สึกเวียนศีรษะ อาเจียน ง่วงนอน ปวดเมื่อยตามร่างกาย ตามข้อ เกิดอาการท้องผูก ท้องเสีย ปัสสาวะบ่อย ผิวหนังเกิดอาการคัน เป็นต้น แต่อาการต่างๆเหล่านี้จะถือได้ว่า เป็นปฏิกิริยาสะท้อนกลับ ที่จะเป็นเรื่องปกติของการบำบัดด้วยสมุนไพรนั่นเอง ซึ่งหากเมื่อตัวยาเข้าไปในร่างกาย ก็จะเข้าไปชำระล้างสารพิษต่าง ๆ ให้สลายไป หรือเคลื่อนไปช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย นั่นจึงทำให้ร่างกายเกิดอาการผิดปกติดังกล่าวขึ้น ซึ่งอาการต่างๆเช่นนี้ จะเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น อาจจะเพียงแค่ 2-7 วัน ร่างกายก็จะกลับสู่สภาวะปกติเอง ทั้งนี้ก็จะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคนด้วย และหากว่ามีอาการเกิดขึ้น คุณก็สามารถรับประทานต่อไปได้เลย แต่หากมีอาการมากก็ควรจะลดปริมาณลง จนกว่าอาการจะกลับเป็นปกติ และให้รับประทานตามคำแนะนำต่อไป และสำหรับผู้ป่วย ที่กำลังรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอยู่นั้น ก็สามารถรับประทานเห็ดชนิดนี้ควบคู่ไปด้วยกันได้ได้ โดยจะไม่ส่งผลหักล้างกัน
ถึงแม้ว่าเห็ดหลินจือแดงจะเป็นสมุนไพรจีน แต่ในไทยก็มีฟาร์มเห็ดบางที่ ที่สามารถเพาะเห็ดหลืนจือได้อย่างมีประสิทธิภาพ หวังว่าบทความเห็ดสมุนไพรเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆกันนะค่ะ วันนี้ขอตัวลาไปก่อน ขอขอบคุณแหล่งอ้างอิงดีๆจากด้านล่างนี้ค่ะ — เห็ดหลินจือแดงยี่ห้อไหนดี
ที่มาจาก : นพ.นิวัฒน์ ศิตวัฒน์, รศ.พญ.นริสา ฟูตระกูล, นพ.บรรเจิด ตัน ติวิท
เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์ www.thailandherbstore.com