10 อาการโรคเบาหวาน อาการของโรคเบาหวานมีอะไรบ้าง เช็กง่ายๆได้เลย

อาการโรคเบาหวาน ถ้าหากเพื่อนๆอยากจะรู้ว่าตัวเราเองนั้นกำลังกลายเป็นผู้ป่วยโรคเบาหวานอยู่หรือไม่ ก็คงจะต้องทำการเริ่มด้วยการเช็กจากอาการที่เกิดขึ้นกับร่างกายซึ่งกาเพื่อนๆกำลังมีอาการเหล่านี้  ก็อย่ามัวปล่อยปะละเลยกันจนสายเกินแก้ล่ะ ว่าแต่ว่าเราจะเริ่มตรงไหนดีมาดูไปพร้อมๆกันได้เลย — อาการโรคเบาหวาน

โรคเบาหวาน จะเป็นโรคภัยไข้เจ็บที่คนในสมัยนี้  มักจะตรวจพบกันอันมีจำนวนมากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  ที่จะอันเนื่องมาจากสภาวะทางสังคมที่มีการเปลี่ยนไป  โดยที่ทำให้เกิดความจำเป็นที่จะต้องเร่งรีบอยู่ตลอดเวลาค่ะ  และอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เราๆลืมที่จะเอาใจใส่ต่อสุขภาพของตัวเอง

ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วก็แทบจะไม่รู้ตัวกันเลยว่าตัวเองกำลังเป็นโรคแล้ว นอกเสียจากว่าจะได้ไปตร­­­­วจสุขภาพ แล้วผลตรวจออกมาระบุว่าเป็นโรคเบาหวาน  แต่กว่าที่จะพบว่าตัวเองป่วยเป็นเบาหวานนั้น  ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้น  ก็จะส่งผล อย่างมากมายต่อสุขภาพไปแล้ว

วันนี้ทางเวปเพจของเราก็จะได้พาทุกคน ที่ยังคงชอบใช้ชีวิตอยู่บนความเ­­­­ร่งรีบ โดยที่พวกเราก็ไปทำความรู้จักกับโรคเบาหวานด้วยกันค่ะ และพร้อมด้วยวิธีการอันที่จะสังเกตตัวเองด้วยว่าป่วยเป็นโรคเบาหวานหรือไม่

โดยอาการต่างๆที่เกิดขึ้นอันจะบ่งชี้ว่า นี่ก็คืออาการของที่ผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน  เมื่ออ่านเสร็จแล้วก็ควรจะรีบเช็ก ให้ได้รู้ตัวกันก่อนเพื่อที่จะได้ทำการรักษาได้อย่างรวดเร็วและได้ถูกวิธีค่ะ — สมุนไพรรักษาเบาหวาน

โรคเบาหวาน  จะถือว่าเป็นความผิดปกติทางร่างกาย  อันที่เกิดจากการที่ตับอ่อนสามารถสร้าง “ฮอร์โมนอินซูลิน” ได้จำนวนน้อย  หรือไม่อาจสามารถสร้างได้เลย ซึ่งฮอร์โมนอินซูลินที่กล่าวถึงนี้ จะมีหน้าที่ในการที่จะคอยช่วยทำให้ร่างกาย ได้ทำการเผาผลาญน้ำตาล เพื่อมาเปลี่ยนใ­­­­ช้เป็นพลังงาน

และหากเมื่อฮอร์โมนอินซูลินภายในร่างกายมีไม่เพียงพอแล้ว  ก็จะทำให้เกิดการสะ­­­­สมของน้ำตาล ให้ำับในอวัยวะต่าง ๆ ได้  และหากเมื่อมีน้ำตาลสะสมในเลือดเป็นจำนวนมาก ๆด้วยแล้ว  ก็จะถูกกรองออกมาผ่านทางปัสสาวะนั่นเอง

โดยที่โรคเบาหวาน  ถือว่าจะเป็นโรคที่เรื้อรังและไม่หายขาด และยังจะเป็นโรคทางที่เกิดมาจากพันธุกรรมอีกด้วยนะคะ และนอกจากนี้โรคเบาหวานก็ยังจะสามารถเกิดขึ้นได้แม้แต่คนในครอบครัวที่ไม่เคยจะมี­ปร­ะวัติของโรคเบาหวานมาอยู่ก่อนเลย

อันเป็นเพราะปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในการใช้ชีวิตประจำวัน ตัวอย่างดังเช่น อาหารและการกิน สภาพสิ่งแวดล้อม การออกกำลังกาย หรือแม้แต่การใช้ยาชนิด ก็อาจจะทำให้เกิดโรคเบาหวานได้เช่นกันคะ

โรคเบาหวานจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน  คือ “1.ประเภทที่พึ่งอินซูลินและ 2.ประเภทที่ไม่พึ่งอินซูลิน” โดยชนิดที่สามารถพบได้บ่อยที่สุดก็คือ ประเภทที่ 2 หรือประเภทที่ไม่พึ่งอินซูลินนั่นเองคะ ซึ่งพบว่าจะมีความรุนแรงน้อย และมักจะพบกันมากในกลุ่มของคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปแล้ว

แต่ก็อาจจะพบได้ในวัยเด็กหรือวัยหนุ่มสาวก็ได้คะ  โดยประเภทนี้ ตับอ่อนจะสามารถสร้างอินซูลินได้ แต่ก็สามารถสร้างได้ในจำนวนที่น้อย­­­­มาก ซึ่งไม่อาจจะเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายได้  อันจะเป็นผลที่ทำให้ร่างกายมีจำเป็นที่จะต้องได้รับอินซูลินบ้างเป็นครั้งเป็นคราว

อาการของผู้ป่วยโรคเบาหวานมักจะสังเกตได้ดังนี้

อาการของเบาหวาน

1 . มองไม่ชัด

อาการมองเห็นไม่ชัด  เห็นแสงวูบวาบ  หรือเห็นอะไรลอยไปมาในดวงตา อันจะเป็นผลมาจากระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเกินไป  โดยระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเกินไปนั้น  ก็อาจจะไปทำปฏิกิริยากับภายในดวงตาได้ ซึ่งจะทำให้เกิดความผิดปกติ  แต่ก็ไม่ต้องกังวลให้มากจนเกินไปค่ะ

เพราะอาการเหล่านี้ก็จะไม่ได้เป็นตลอดไปคะ  หากผู้ป่วยสามารถควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู­­­­่ในระดับปกติได้แล้ว  อาการเหล่านี้ก็จะหายไปเอง  แต่ก็ควรที่จะหมั่นทำการตรวจเลือด  เพื่อที่จะเช็กระดับน้ำตาลภายในเลือดเป็นอย่างสม่ำเสมอ เพราะถ้าหากว่าไม่มีการตรวจเช็กและควบคุมให้ดีแล้ว  ก็อาจจะทำให้ถึงขั้นที่มีสิทธิ์ตาบอดได้เลยค่ะ

เบาหวาน

2 . รู้สึกชาตามปลายมือปลายเท้า

อาการชาตามปลายมือปลายเท้า จะเป็นอาการที่แสดงให้เห็นว่า เกิดจากระดับน้ำตาลในเลือดเข้าไปทำลายระ­­­­บบการทำงานของประสาท ซึ่งมักจะเป็นอาการที่เกิดกับคนที่เป็นโรคเบาหวาน และมีระดับน้ำตาลส­­­­ูงโดยติดต่อกันเป็นระยะเวลาที่นาน ส่วนวิธีการป้องกันก็คือ

การที่จะต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับ­ที่เหมาะสมนั่นเอง และจะต้องมีการรับประทานวิตามินบีด้วย  เพื่อจะช่วยในการบำรุงประสาทอีกทางนึงค่ะ

เบาหวานอาการ

3 . หิวบ่อย กินจุบจิบ

ถ้าเกิดอยู่ดี ๆ คุณกลายเป็นคนชอบกินจุบๆกินจิบๆ  หรือมีการหิวอยู่บ่อยๆแบบไม่มีสาเหตุแล้วละก็  ควจจะให้สันนิฐานเองได้เลยค่ะว่า คุณก็อาจจะกำลังเป็นโรคเบาหวานอยู่ นั่นก็เป็นเพราะว่าเมื่อเกิดระดับน้ำตาลในเลือดต่ำแล้ว ร่างกายก็จะต้องการอาหารเพื่อใช้เ­พิ่มระดับน้ำตาลในเลือด

อันจะมีการส่งสัญญาณออกมา อันทำให้เกิดเป็นความรู้สึกหิวอยู่นั่นเอง  แต่ถ้าอยากจะให้แน่ใจว่าป่วยเป็นเบาหวานจริงๆหรือไม่นั้นละก็ ทางที่ดีก็ควรไปตรวจกับแพทย์จะแน่นอนกว­­­­่าค่ะ

เบาหวานอาการคือ

4 . มีปัญหาที่ผิวหนัง

ผิวแห้งแตก หรืออาการคันบนผิวหนัง ก็จะเป็นอีกสัญญาณหนึ่งในพื้นฐานของผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน โดยผู้ป่วยเบาหวานบางรายนั้นอาจจะมีรอยดำคล้ำเกิดที่บริเวณคอหรือใต้รัก­­­­แร้

ซึ่งอาจจะมีสาเหตุมาจากภาวการณ์ที่ดื้ออินซูลินในร่างกายได้ ดังนั้นหากพบว่ามีปัญหาด้านผิวหนังดังที่กล่าวมา ก็ควรจะให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็วเพื่อทำการตรวจความผิดปกติและวัดระดับน้ำตาลในเลือดนะค่ะ

อาการ

5 . บาดแผลหายช้า

หากบาดแผลที่เกิดจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น จากการติดเชื้อ  แผลถูกของมีคมบาด หรือจะแม้แต่รอยฟกช้ำแค่นั้น หากเมื่อเป็นแล้วหายได้ช้ามากๆ นั่นก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่เห็นได้ชัดเลยว่­าคุณกำลังเผชิญกับโรคเบาหวานอยู่นะคะ เพราะระดับน้ำตาลในเลือดอันที่สูงเกินกว่าปกติ

ของผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มักจะ­­­­ไปขัดขวางการทำงานของหลอดเลือด โดยที่จะไปสร้างทำให้เกิดความเสียหายในหลอดเลือด อันจะส่งผลทำให้เลือดไปเลี้ยงบริเวณที่มีบาดแผลได้ในจำนวนน้อย และหากว่าไม่ระมัดระวัง หรือไม่มีการรักษาความสะอาดให้ดีแล้ว ก็อาจจะทำให้กลายเป็นแผลติดเชื้อและเกิดเนื้อตายได้เลยนะค่ะ

อาการของโรคเบาหวาน

6 . ติดเชื้อราง่าย

โรคเบาหวานเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ภูมิคุ้มกันของเราอ่อนแอลงอย่างมาก อันจะทำให้ร่างกายไวต่อการติดเชื้อมาก และเชื้อราที่มักจะพบในผู้ป่วยโรคเบาหวานได้บ่อยที่สุด นั่นก็คือเชื้อราแคนดิด­า (Candida) นั่นเองเพราะโดยส่วนใหญ่แล้วเชื้อรา ในชนิดต่าง ๆ

ก็มักจะมีการเติบโตได้ดีในสภาวะอันอุดมไปด้วยน้ำตาลนั่นเอง โดยเฉพาะในคุณผู้หญิงนั้น อาจติดเชื้อราแคนดิดาได้­บ่อ­­­ยๆในบริเวณช่องคลอดนั่นเอง ส่วนวิธีในการรักษาก็คือ การที่ใช้ยาฆ่าเชื้อและการควบคุมระดับน้ำตาลนั่นเองค่ะ

โรคเบาหวานอาการ

7 . ปัสสาวะบ่อยขึ้น หิวน้ำบ่อยขึ้น

หากคุณเริ่มรู้สึกว่าพักหลัง ๆ คุณลุกไปเข้าห้องน้ำบ่อยกว่าปกติ โดยเฉพาะในตอนกลางคืนแล้วล่ะก็ และยังมีการกระหายน้ำมากกว่าเดิมด้วย  แสดงว่านั่นจะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกของโรคเบาหวานนะค่ะ นั่นก็เป็นเพราะว่าร่างกายจำเป็นจะต้องขับปริมาณน้ำตาลในเลือดที่สูงกว่า­­­­ปกติให้ออกมาทางปัสสาวะ

และร่างกายก็ยังต้องการน้ำเพื่อมาทดแทนของเหลวที่ได้ขับออกไปพร้อมกับน้ำตาลด้วย  แต่ก็จะเป็นเฉพาะในเวลาที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเพียงเท่านั้น  และถ้าหากว่าสามารถควบคุมระดับน้ำตาลให้กลับเป็นปกติได้แล้ว  อาการเหล่านี้ก็จะเบาบางจางล­งค่ะ

อาการของคนเป็นโรคเบาหวาน

8 . น้ำหนักลด

การที่น้ำหนักลดลงอย่างผิดปกตินั้น  ไม่ใช่เรื่องที่ควรละเลยนะค่ะ เพราะนั่นอาจจะเป็นสัญญาณเตือนของโรคบางชนิดได้ โดยเฉพาะกับโรคเบาหวานนั้น การที่ผู้ป่วยจะมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง อันที่จะส่งผลให้น้ำหนักดิ่งลดลงไปอย่างรวด­­­­เร็ว ถึงประมาณ 5-10 กิโลกรัม ภายในระยะเวลาแค่ 2-3 เดือนเท่านั้นเอง ซึ่งจะไม่ใช่ผลดีต่อร่างกายเลยนะค่ะ

ส่วนสาเหตุของการที่ทำให้น้ำหนักลดอย่างรวดเร็วนั้น  ก็เนื่องมาจากว่าในร่า­­งกายจะ­­ไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานได้นั่นเอง จึงเป็นผลทำให้ร่างกายเหมือนอยู่ในสภาวะของการขาดอาหาร  และเริ่มที่จะดึงโปรตีนจากกล้­­­­ามเนื้อมาเพื่อเอามาใช้เป็นพลังงานแทนกัน

และนอกจากนี้ การที่ไตได้ทำงานอย่างหนักหน่วง  ก็ยังส่งผลทำให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญแคลอ­­­­รีมากจนเกินไปอีกด้วย แถมยังเป็นอันตรายต่อไตอย่างมากอีกด้วยนะคะ

โรคเบาหวาน

9 . อ่อนเพลีย อารมณ์ฉุนเฉียว

อาการอ่อนเพลียและอารมณ์ฉุนเฉียวนั้น  จะเป็นสิ่งที่ผู้ป่วยเบาหวานจะต้­องเจอเมื่อระดั­­­บน้ำตาลในเลือดสูง  เนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดจะส่งผลกับทุกๆระบบการทำงานภายในร่างกา­­­­ย  แม้แต่กับภาวะทางอารมณ์ด้วยคะ  แต่ก็ไม่ต้องกังวลให้มากจนมากเกินไป

เพราะหากเมื่อร่างกายมีการขับน้ำตาลออกมาทางปัสสาวะ จนทำให้ระดับน้ำตาลในเลือ­­­­ดเข้าสู่ภาวะปกติแล้วนั้น  ระบบต่าง ๆภายในร่างกายก็จะสามารถกลับมาทำงานได้ดีขึ้น อาการต่างๆ เช่นอ่อนเพลียและอารมณ์ที่แปรปรวนก็จะหายไปได้เองค่ะ

อาการเบาหวาน

10 . น้ำตาลในเลือดสูง

จริงอยู่ที่การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดจะสามารถระบุได้ชัดเจนที่สุด­­­­ว่าคุณกำลังเป็นโรคเบาหวานหรือไม่นั้น  ทั้งนี้เราจะไม่สามารถที่จะเชื่อผลการตรวจเลือดในครั้งแรกได้ 100% นะค่ะ  เพราะว่าในการตรวจเลือดครั้งแรกนั้นระดับน้ำตาลที่สูงนั้้นอาจจะมีสาเหตุที่เกิดมาจากการร­ับประทานอาหารก็อาจจะเป็นไปได้

จึงสมควรที่จะได้รับการตรวจเลือดซ้ำอีกครั้งนะคะโดยจะต้องให้ทำการงดอาหารและน้ำอย่างเด็ดขาด  ก่อนที่จะทำการตรวจเลือดเป็นอย่างน้อยจำนวน 8 ชั่วโมงคะ

โดยทั่วๆไปสำหรับระดับน้ำตาลของคนที่เป็นปกติจะอยู่ที่ประมาณ 99 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ซึ่งถ้าหากระดับน้ำตาลเกิดมาอยู่ที่ประมาณ 100 – 125 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตแล้ว ก็ควรระมัดระวัง  แต่เกิดถ้าหากระดับน้ำตาลสูงกกว่า 126 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร  ขึ้นไปแล้ว แม้จะตรวจซ้ำแล้วก็แปลว่าคุณกำลังเป็นป่วยโรคเบาหวานค่ะ

จากอาการที่เกิดขึ้นเหล่านี้จะเป็นอาการของโรคเบาหวาน  ที่จะสามารถสังเกตุได้อย่างชัดเจนที่สุด  ดังนั้นหากใครก็ตามที่กลัวว่าตัวเองจะเป็นโรคเบาหวานแล้วละก็ ควรจะทำการสังเกตุตัวเองให้ดีๆเลยค่ะ ว่ามีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นหรือไม่  และอาการที่เกิดเหล่านี้มีการเกิดขึ้นเป็นประจำหรือเปล่า

หากว่าใช่  ก็ควรจะรีบให้ไปพบแพทย์ก็จะเป็นการดีกว่าค่ะ ซึ่งหากว่าทิ้งเอาไว้จนถึงระดับน้ำตาลสูงเกินไป ก็อาจจะทำให้เกิดอาการช็อกขึ้นได้  ซึ่งจะเป็นอันตรายไม่ใช่เล่น ๆ เลยนะคะ

เมื่อเพื่อนๆได้ตรวจเช็กอาการของโรคเบาหวานกันแล้ว ก็อย่าลืมหันมาดูแลสุขภาพร่างกายกันให้มากขึ้นเพื่อความแข็งแรงของสุขภาพกันนะค่ะ

การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่พร้อมออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอน่าจะเป็นสิ่งที่ง่ายและดีที่สุด วันนี้ขอตัวลาไปก่อน สวัสดีค่ะ