ปวดเข่า คืออะไร อาการ สาเหตุ และวิธีการรักษาเมื่อปวดเข่า
ปวดเข่า เป็นอาการอีกหนึ่งปัญหาสุขภาพที่สามารถพบได้ทุกเพศทุกวัย เพราะการปวดเข่านั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย วัยรุ่น วัยทำงาน ผู้สูงอายุก็ปวดเข่าได้ ส่วนตัวแล้วเคยปวดหัวเข่าข้างขวาเพราะต้องขึ้นลงรถยนต์ และขับรถนานเนื่องจากอยู่กรุงเทพ ได้ลองกินคอลลาเจนก็ดีขึ้น และหายไปในที่สุด
ในส่วนของผู้สูงอายุที่มีอาการปวดเข่าส่วนใหญ่นั้นจะเกิดจากการเสื่อมสภาพของเนื้อเยื่อที่มีอยู่ ซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติ แต่ถ้าเป็นเด็ก วัยรุ่น หรือวัยหนุ่มสาวนั้นมักเกิดจากขึ้นอุบัติเหตุหรือเกิดขึ้นการได้รับบาดเจ็บนั่นเอง แต่อย่างไรก็ดีแล้ว อาการปวดเข่ายังสามารถเป็นที่มาของโรคข้อเข่าเสื่อมได้อีกด้วย
ซึ่งจะทำให้เกิดอาการอักเสบที่เข่า อาการเข่าบวม ทำให้ไม่สามารถเหยียดขา หรือทำการงอขาแบบสุดๆได้ ส่งผลทำให้เกิดความยุ่งยากต่อการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก ดังนั้นแล้ว อาการปวดเข่าจึงอีกสิ่งหนึ่งที่เพื่อนๆไม่ควรมองข้าม — ปวดเข่า
สาเหตุหลักที่ทำให้ปวดเข่า
สาเหตุทำให้ปวดเข่า อย่างที่บอกไปด้านบนว่าอาการปวดเข่าอาจเป็นสิ่งที่นำไปสู่โรคร้ายต่างๆได้ ดังนั้นแล้วเพื่อนๆควรเริ่มการสำรวจตัวเองว่ากำลัง มีอาการปวดเข่า อยู่หรือไม่ โดยการยืนนานๆ ลงไปนั่ง หรือลองลงน้ำหนักไปที่ขาข้างใดข้างหนึ่งดูว่าสามารถทำได้อย่างสะดวกหรือไม่
เพราะรูปร่างของเข่าผิดปกติ หรือหากมีอาการเข่าบวม อาการแดงร้อน มีหรือพบไข้มากน้อยก็ตาม เมื่อเริ่มพบว่ามีอาการเหล่านี้เพื่อนๆควรหาทางรักษาทันที ทั้งนี้ แล้วสาเหตุหลักที่มักจะทำให้ปวดเข่า ได้แก่
1.ข้อเข่าเสื่อม สาเหตุนี้มักมีเป็นผลมาจากการเสื่อมสภาพตามวัย ตามอายุ ผู้สูงอายุมักมีมวลกระดูกลดลงทำให้หมอนรองกระดูกบางลง จนเกิดการขาดความยืดหยุ่นเอ็นหลวม เป็นผลทำให้ข้อเข่าหลวม ทำให้ปวดเข่า สาเหตุปวดเข่ามาจากการเสื่อมสภาพจากการใช้งานหนัก
เช่น ท่านั่งที่นั่งงอเข่านานๆ ขับรถนาน แบกของหนัก ทำงานที่ใช้เข่ารับน้ำหนักเยอะ สำหรับผู้หญิงแล้วมักเป็นจากการใส่รองเท้าส้นสูงเป็นเวลานานๆจนเกินไป นอกจากนี้แล้วยังอาจเกิดจากการล้มกระแทกกันบ่อยๆ อุบัติเหตุ การเล่นกีฬาหนักๆ และการกระโดดบ่อยๆก็สามารถทำให้ปวดเข่าได้เช่นกัน ซึ่งเป็นสิ่งทีี่วัยรุ่นมักเป็นกันบ่อยๆ
2.การฉีกขาดของเอ็นเข่า อาการแบบนี้เป็นสาเหตุนี้มักพบบ่อยในนักกีฬาที่ต้องใช้แรงกระโดด หรือการปะทะกระแทกล้มบ่อยๆ เช่น กีฬาบาสเกตบอล ฟุตบอล เป็นต้น หรืออาจเกิดจากอุบัติเหตุอย่างเช่น การลื่นล้ม ตกบันได สะดุดล้ม ฯลฯ
แนะนำท่าบริหารแก้อาการปวดเข่า เห็นผลไว
ท่าบริหารนี้ใช้สำหรับแก้อาการปวดเข่า เป็นการบริหารกล้ามเนื้อที่อยู่บริเวณกล้ามเนื้อควอดไดรเซ็บส์ หรือเหนือเข่า ซึ่งการบริหารในลักษณะนี้จะทำให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น สามารถช่วยแก้อาการปวดเข่าได้ทั้งด้านในและด้านนอก
ซึ่งเป็นท่าบริหารแก้ปวดเข่าที่แสนง่าย ใครๆ อายุไหนก็สามารถทำได้ ยิ่งบริหารบ่อยๆ ใช้เวลาสั้นๆเพียงวันละ 4 – 6 รอบ หรือแนะนำในช่วงเริ่มต้น 5-10 รอบ ก็จะช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรงได้ดี ซึ่งรับรองอาการปวดเข่านี้จะหายเป็นปริดทิ้ง
วิธีการรักษาเมื่อปวดเข่า
ท่าการบริหารแก้ปวดเข่า มี 2 ท่า คือ ท่านั่ง กับท่านอน
ท่านั่ง ให้ทำการนั่งเก้าอี้ที่มีพนักพิง นั่งให้หลังส่วนล่างชิดพนักพิง ให้ต้นขาทั้ง 2 ข้างวางไว้บนที่นั่ง หลังจากนั้นให้เท้าวางราบบนพื้น ถ้าเพื่อนๆไม่มีอาการปวดเข่า ปวดสะโพก หรือปวดหลัง แต่ถ้ามีอาการปวดดังกล่าวให้ทำการใช้อุปกรณ์ช่วยเช่น ใช้เก้าอี้เสริมที่มีความสูงใกล้เคียงกัน ให้นำมารองบริเวณหัวเข่า
เพื่อให้สามารถขาเหยียดขาได้ตรงขึ้น และให้มีให้การเคลื่อนขาส่วนใต้เข่าน้อยที่สุด หลังจากนั้นก็ให้เพื่อนๆเกร็งกล้ามเนื้อเหนือเข่าทีละข้าง อย่าเกร็งเข่าพร้อมกันทั้งสองข้างเพราะอาจจะทำให้บริหารได้ไม่เต็มที่ เมื่อเราทำการเกร็งข้างใดข้างหนึ่งแล้วให้ลองพยายามเหยียดขาตรง แล้วก็ให้เกร็งค้างไว้พร้อมกับทำการนับ 1 – 10 อย่างช้าๆ แล้วจึงสลับข้างดู
ท่านอน สำหรับท่านี้ก็มีความคล้ายๆกัน แต่ให้เพื่อนๆทำการนอนหงายบนที่นอน ต้องเป็นที่นอนที่ไม่นิ่มจนเกินไป จากนั้นให้หนุนศีรษะด้วยหมอน แล้วให้ใช้อุปกรณ์อย่างผ้าขนหนูมารองใต้ข้อพับของหัวเข่าทั้ง 2 ข้างเพื่อไม่ให้บริเวณส้นเท้ายันกับที่นอนขณะทำการบริหาร และจะได้ทำการเกร็งกล้ามเนื้อเหนือเข่าง่ายขึ้นอีกด้วย
หลังจากนั้นก็ให้ทำการบริหารเข่าทีละข้างเหมือนท่านั่ง เพียงแค่นี้ก็จะสามารถช่วยทำให้อาการปวดเข่าของเพื่อนๆค่อยๆทุเลาลงจนหายไปในที่สุด ทั้งนี้แล้วหากมีอาการรุนแรงจนเกินเยียวยา เกินรักษาด้วยตัวเอง เพื่อนๆจำเป็นต้องไปพบแพทย์เพื่อทำการค้นหาสาเหตุที่แท้จริง ซึ่งอย่าปล่อยไว้จนเกิดอาการเรื้อรังเป็นอันขาดนะค่ะ
อาหารเสริมคอลลาเจนแก้ปวดเข่า คอลลาเจนนอกจากจะช่วยบำรุงผิวให้มีความขาวเนียนใสแล้ว ยังเป็นอาหารเสริมที่สามารถช่วยดูแล กระดูก ไข ข้อ ได้ โดยมีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์พบว่าการทานคอลลาเจนสามารถช่วยลดความเสื่อมได้โดยตรง และช่วยบำรุงให้ดีขึ้น เพราะเมื่อคนเราอายุมากขึ้นแล้ว
เซลล์ของร่างกายจะมีการเข้าไปทำลายคอลลาเจนที่อยู่ตรงเข่า (ได้มองว่าเป็นสิ่งแปลกปลอม) ซึ่งยังมีงานวิจัยพบว่าการทานคอลลาเจนอย่างสม่ำเสมอยังเป็นผลทำให้ร่างกายมีความ “เคยชิน” กับคอลลาเจน ซึ่งเป็นผลทำให้ลดการทำลายที่เกิดขึ้นได้
